มีคน 2 คนเป็นเพื่อนซี้กัน..
ต่างร่วมเดินทางไปในทะเลทราย... ระหว่างทาง..เกิดโต้เถียงขัดแย้งไม่เข้าใจกัน
เพื่อนคนหนึ่ง...พลั้งลงมือ...ตบหน้าอีกฝ่าย
ฝ่ายถูกทำร้าย...เจ็บปวด...แต่ไม่เอ่ยวาจา กลับเขียนลงบนผืนทรายว่า....
"วันนี้...ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้า"
ทั้งสองยังคงเดินทางต่อ...กระทั่งถึงแหล่งน้ำ
พวกเขาตัดสินใจอาบน้ำ...ชำระกาย
พลัน..คนที่ถูกตบหน้ากลับจมน้ำ เพื่อนอีกคนไม่รั้งรอ...เข้าช่วยชีวิต
คนรอดตาย...ยังคงไม่เอ่ยวาจา.. กลับสลักลงไปบนหินใหญ่...
"วันนี้...เพื่อนรักช่วยชีวิตฉันไว้"
เพื่อน...อีกคนไม่เข้าใจ...ถามว่า... เมื่อถูกฉันตบหน้า...เธอเขียนลงทราย..
แล้วทำไมเมื่อครู่...ต้องสลักบนหิน
อีกคนยิ้มพราย...กล่าวตอบ
เมื่อถูกเพื่อนรักทำร้าย... เราควรเขียนมันไว้บนทราย
ซึ่งสายลมแห่งการให้อภัย... จะทำหน้าที่พัดผ่าน...ลบล้างไม่เหลือ
แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมาย...บังเกิด
เราควรสลักไว้บนก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ
ซึ่งจะไม่มีสายลมแรงเพียงใด...ลบล้างทำลาย
ต่างร่วมเดินทางไปในทะเลทราย... ระหว่างทาง..เกิดโต้เถียงขัดแย้งไม่เข้าใจกัน
เพื่อนคนหนึ่ง...พลั้งลงมือ...ตบหน้าอีกฝ่าย
ฝ่ายถูกทำร้าย...เจ็บปวด...แต่ไม่เอ่ยวาจา กลับเขียนลงบนผืนทรายว่า....
"วันนี้...ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้า"
ทั้งสองยังคงเดินทางต่อ...กระทั่งถึงแหล่งน้ำ
พวกเขาตัดสินใจอาบน้ำ...ชำระกาย
พลัน..คนที่ถูกตบหน้ากลับจมน้ำ เพื่อนอีกคนไม่รั้งรอ...เข้าช่วยชีวิต
คนรอดตาย...ยังคงไม่เอ่ยวาจา.. กลับสลักลงไปบนหินใหญ่...
"วันนี้...เพื่อนรักช่วยชีวิตฉันไว้"
เพื่อน...อีกคนไม่เข้าใจ...ถามว่า... เมื่อถูกฉันตบหน้า...เธอเขียนลงทราย..
แล้วทำไมเมื่อครู่...ต้องสลักบนหิน
อีกคนยิ้มพราย...กล่าวตอบ
เมื่อถูกเพื่อนรักทำร้าย... เราควรเขียนมันไว้บนทราย
ซึ่งสายลมแห่งการให้อภัย... จะทำหน้าที่พัดผ่าน...ลบล้างไม่เหลือ
แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมาย...บังเกิด
เราควรสลักไว้บนก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ
ซึ่งจะไม่มีสายลมแรงเพียงใด...ลบล้างทำลาย